วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดการสัมมนา “คมนาคมสัญจร สู่มหานครสงขลา” รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม ภาพ โปรดปราน บุญธรรม / รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  เป็นประธานเปิดการสัมมนา "คมนาคมสัญจร สู่มหานครสงขลา" รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

วันนี้(28พ.ค.55) เวลา 14.00 น. ที่ โรงแรมลีการ์เดนส์พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  เป็นประธานเปิดการสัมมนา "คมนาคมสัญจร สู่มหานครสงขลา" โดยมี นายสุรพล พนัสอำพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมให้การต้อนรับ และมีนายอุทิศ ชูช่วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เป็นผู้กล่าวรายงาน นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม   กล่าวว่า การคมนาคมเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจการค้า การลงทุน และประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 โดยจังหวัดสงขลาเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่จะเป็นประตูสู่อาเซียน เนื่องจากมีพื้นที่ชายแดนติดต่อกับประเทศมาเลเซีย ดังนั้น เพื่อเป็นการรองรับการเปิดการค้าโดยเสรีไร้เขตอาเซียน(AFTA) และการเป็นประตูสู่อาเซียนภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ในปี 2558 นี้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาการคมนาคมทุกด้าน ซึ่งทางรัฐบาลเองได้เห็นถึงความสำคัญของเรื่องดังกล่าวที่จะช่วยผลักดันให้เกิดการคมนาคมในภาคใต้ทุกระบบ ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จังหวัดสงขลา รัฐบาลจะมีการผลักดันให้เป็นสถานีขนส่งสินค้าหลักของภาคใต้ ซึ่งได้มีการคาดการณ์งบประมาณในการดำเนินงานดังกล่าวไว้กว่า 600,000 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งมอเตอร์เวย์ รถไฟ และท่าเทียบเรือ ในการเป็นจุดพักและกระจายสินค้า สำหรับการจัดโครงการในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเปิดประเด็นข่าวและถ่ายทอดเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคม รวมถึงแนวทางการพัฒนาระบบการขนส่งภาคใต้ เพื่อเป็นแนวทางในการแสวงหาโอกาสทางการค้า การลงทุนในพื้นที่ภาคใต้ที่มีจังหวัดสงขลาเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุน ซึ่งมีการคมนาคมที่สะดวกทันสมัย และเพื่อผลักดันโครงการก่อสร้างโครงการพื้นฐานสำคัญๆ ทั้งการคมนาคมระบบราง การคมนาคมทางอากาศ และทางด่วนพิเศษระหว่างเมืองให้เป็นรูปธรรมและเห็นผลโดยเร็วต่อไป

Read more...

วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จัดสัมมนามาตรการเชิงรุก-เชิงรับ สำหรับสินค้าเกษตร (ยางพารา) เตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558





ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม ภาพ โปรดปราน บุญธรรม / สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จัดสัมมนามาตรการเชิงรุก-เชิงรับ สำหรับสินค้าเกษตร(ยางพารา) เตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558

วันนี้ (25พ.ค.55) เวลา 13.30 น. ที่ โรงแรมไดอิชิ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จัดสัมมนามาตรการเชิงรุก-เชิงรับ สำหรับสินค้าเกษตร (ยางพารา) เตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 โดยมี นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเป็นประธานเปิดการสัมมนาดังกล่าว ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคเกษตรกรจำนวนกว่า 100 คน นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานคณะทำงานเศรษฐกิจมหภาค การเงิน การคลัง สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญมีหน้าที่ให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในปัญหาที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจและสังคม พร้อมให้ความเห็นเกี่ยวกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติตลอดจนแผนอื่นตามที่กฎหมายกำหนด จึงได้จัดการสัมมนาในครั้งนี้ขึ้น เพื่อเป็นการเสริมสร้างให้เกิดความตระหนักและตื่นตัวในการเตรียมความพร้อมเพื่อกำหนดมาตรการในการรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และสร้างโอกาสในการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างเกษตรกรผู้ประกอบการยาง อุตสาหกรรมยาง ผู้บริหาร ผู้ทรงคุณวุฒิและนักวิชาการ ทั้งนี้ ภายหลังจากการสัมมนาในครั้งนี้แล้ว ขั้นตอนต่อไปจะมีการรวบรวมผลจากการสัมมนาไปวิเคราะห์ สังเคราะห์ และประมวลผล เพื่อจัดทำเป็นความเห็นและข้อเสนอแนะ เรื่อง"มาตรการเชิงรุก-เชิงรับ สำหรับสินค้าเกษตร (ยางพารา) เตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558" นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

 

 

 

 

Read more...

วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

คณะผู้บริหารสอศ. ต้อนรับนศ.ไทยกลับสู่มาตุภูมิในโครงการแลกเปลี่ยนครูและนักศึกษา School Partner ship Program ไทย-อินโดนีเซีย

ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม สงขลา / คณะผู้บริหารสอศ. ต้อนรับนศ.ไทยกลับสู่มาตุภูมิในโครงการแลกเปลี่ยนครูและนักศึกษา School  Partner ship  Program  ไทย-อินโดนีเซีย

วันนี้(13พ.ค.55) ที่ วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายประเสริฐ แก้วเพชร ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) พร้อมคณะผู้บริหารฯร่วมต้อนรับนักศึกษาไทยกลับสู่มาตุภูมิในโครงการแลกเปลี่ยนครูและนักศึกษา School  Partner ship  Program  ไทย-อินโดนีเซีย : TVET Camp 2012 จำนวนกว่า 90 คน จาก 17 วิทยาลัย ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จ.นราธิวาส  จ.ปัตตานี จ.ยะลา จ.สตูล และ 4  อำเภอของจังหวัดสงขลา ซึ่งได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการเรียนสาขาอาชีพต่างๆ , ด้านภาษาอังกฤษ , ภาษาบาฮาซา , วิถีชีวิตวัฒนธรรม รวมไปถึงเทคโนโลยีทางด้านการศึกษาวิชาชีพระหว่างประเทศไทยกับประเทศอินโดนีเซีย เพื่อยกระดับอาชีวศึกษาสู่มาตรฐานการศึกษาอาเซียนในปี 2558 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 เมษายน – 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ เมืองบาหลี เมืองสุราบายา และเมืองยอร์คยากาต้าร์ ประเทศอินโดนีเซีย นางสาวจันธิรา เด็จดวง หนึ่งในนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการฯ กล่าวว่า ตนเองได้รับประสบการณ์อย่างมากทั้งในเรื่องของการฝึกภาษาโดยเฉพาะภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาหลักในการสื่อสารระหว่างกันของกลุ่มสมาชิกอาเซียน ได้เรียนรู้ทั้งทางด้านวิชาการ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ การมีวินัยในการใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักศึกษาประเทศอินโดนีเซีย ทำให้มีความเข้าใจในการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558ได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้าน นายดานยา สะซี ซึ่งเป็นอาจารย์ผู้ดูแลนักศึกษา กล่าวว่า ทางอินโดนีเซียดูแลคณะอาจารย์และนักศึกษาจากไทยได้ดีและอบอุ่นมาก ทำให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างราบรื่น และสิ่งที่ประทับใจมากที่สุด คือ ทางอินโดนีเซียมีความจริงใจอย่างมากในการดูแลคณะจากไทย ซึ่งคาดว่าความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง 2 ประเทศในครั้งนี้ จะดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง ด้าน นายเสริมศักดิ์ นิลวิลัย ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพสุไหงโก-ลก ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายแผนงานและความร่วมมือต่างประเทศ กล่าวว่า ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2555 ทางประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพในการต้อนรับนักศึกษาจากอินโดนีเซีย ซึ่งจะจัดให้มีกิจกรรมที่คล้ายกัน ทั้งด้านวิชาการ วัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ พร้อมทั้งจัดการแข่งขันทักษะวิชาชีพของแต่ละวิทยาลัย ในการกระตุ้นให้นักศึกษาได้มีการปรึกษาหารือมากยิ่งขึ้น สามารถนำความรู้ที่แต่ละคนมีถ่ายทอดให้กันและกันให้มากที่สุด เป็นPartnerร่วมกันในการประกอบอาชีพและเรื่องอื่นๆตามมาต่อไป ในขณะที่ได้มีการผลักดันในการจัดทำเว็บไซต์เพื่อสานความสัมพันธ์ของทั้งประเทศให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเตรียมขยายโครงการนี้ไปยังประเทศต่างๆในอาเซียนอีกด้วย  

Read more...

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

รายงานพิเศษ : สอศ.เดินหน้าสานต่อโครงการพัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้“TVET Camp”สู่ประเทศอื่นในอาเซียน หลังความร่วมมือกับอินโดนีเซียประสบผลสำเร็จ

รายงานพิเศษ : สุธิดา พฤกษ์อุดม / สอศ.เดินหน้าสานต่อโครงการพัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้"TVET Camp"สู่ประเทศอื่นในอาเซียน หลังความร่วมมือกับอินโดนีเซียประสบผลสำเร็จ

จากการที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการได้มีนโยบายเพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับนโยบายด้านการต่างประเทศในปัจจุบันเพื่อฟื้นฟูสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศในทุกด้าน ศูนย์พัฒนาการศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้มีการสร้างความตระหนักในการเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจ พร้อมเตรียมบุคลากรตามกรอบของประชาคมอาเซียน และได้จัดโครงการนำคณะครูและนักเรียนดูงานยังต่างประเทศขึ้น ภายใต้โครงการพัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้เตรียมพร้อมศักยภาพเยาวชนไทยสู่ประชาคมอาเซียน " School Partnership Program ไทย-อินโดนีเซีย : TVET Camp 2012" นายปรีชา เวชศาสตร์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการเรียนสาขาอาชีพต่างๆ , ด้านอิสลามศึกษา , ภาษาอังกฤษ , ภาษามาลายู  รวมไปถึงเทคโนโลยีทางด้านการศึกษาวิชาชีพระหว่างประเทศไทยกับประเทศอินโดนีเซีย เป็นการยกระดับอาชีวศึกษาสู่มาตรฐานการศึกษาอาเซียนในปี 2558 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 20 เมษายน – 12 พฤษภาคม 2555 มีครู-นักเรียนไทยจาก 17 วิทยาลัย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จ.นราธิวาส  จ.ปัตตานี จ.ยะลา จ.สตูล และ 4  อำเภอของจังหวัดสงขลา เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 93 คน ณ เมืองบาหลี เมืองสุราบายา และเมืองยอร์คยากาต้าร์ ประเทศอินโดนีเซีย หลังจากที่คณะผู้บริหาร สอศ.นิเทศติดตามผู้เข้าร่วมโครงการดังกล่าวระหว่างวันที่ 4-7 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ประเทศอินโดนีเซียถือว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยทางด้าน นายประเสริฐ แก้วเพชร ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการฯมีความสุขมาก เพราะได้รับประสบการณ์เพิ่มขึ้นทั้งทางด้านวิชาการ การเรียนรู้วิถีชีวิตวัฒนธรรมและเทคโนโลยีต่างๆ รวมไปถึงเรื่องภาษาที่ได้ศึกษาทั้งภาษาอังกฤษและภาษาบาฮาซาซึ่งเป็นภาษาของประเทศอินโดนีเซีย โดยได้รับการดูแลจากเจ้าบ้านเป็นอย่างดีทำให้ทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ จากความสำเร็จดังกล่าว ทางผู้บริหารของ สอศ.จะหารือร่วมกันต่อไปในการแลกเปลี่ยนครูระหว่างกัน และมีการเพิ่มระยะเวลาของโครงการฯให้เป็นภาคเรียนหรือเป็นปี นอกจากนี้ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2555 ทางประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพในการต้อนรับนักศึกษาจากอินโดนีเซีย ซึ่งจะจัดให้มีกิจกรรมที่คล้ายกัน ทั้งด้านวิชาการ วัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ พร้อมทั้งจัดการแข่งขันทักษะวิชาชีพของแต่ละวิทยาลัย ในการกระตุ้นให้นักศึกษาได้มีการปรึกษาหารือมากยิ่งขึ้น สามารถนำความรู้ที่แต่ละคนมีถ่ายทอดให้กันและกันให้มากที่สุด เป็นPartnerร่วมกันในการประกอบอาชีพและเรื่องอื่นๆตามมา นอกจากนี้จะมีการขยายผลการดำเนินโครงการฯไปยังประเทศอื่นๆในกลุ่มสมาชิกอาเซียนไม่ว่าจะเป็นประเทศมาเลเซีย หรือบรูไน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเติมเต็มคำว่าอาเซียนที่จะมาถึงได้อย่างสมบูรณ์ต่อไป ด้าน นายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ อดีตเลขาธิการ สอศ. ในฐานะผู้ริเริ่มโครงการฯ กล่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจที่ผู้บริหารสถานศึกษาของอินโดนีเซียให้ความสนใจกับโครงการดังกล่าวเป็นอย่างมาก และนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับประโยชน์หลายด้าน โดยเฉพาะการเปิดการค้าเสรีสู่อาเซียนในปี 2015 ให้นักเรียนได้มีการเรียนรู้ซึ่งกันและกันเนื้อหาสาระวิชาการที่จะต้องเข้ามาประสานกัน และที่สำคัญที่สุดเด็กในพื้นที่ จชต.ของไทยกับอินโดนีเซียนับถือศาสนาเดียวกัน จึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งได้ฝากให้ผู้บริหารของทั้ง 2 ประเทศ มีการจัดทำเว็บไซต์เพื่อประชาสัมพันธ์ในกฎกติกาสำหรับการอยู่ร่วมกันให้รู้พื้นฐานก่อนที่จะเข้ามาเรียนรู้ซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งอยากให้มีการจัดโครงการนี้ต่อเนื่องต่อไป และขยายโครงการนี้ไปยังประเทศต่างๆในอาเซียนด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศใกล้เคียง อาทิ ประเทศมาเลเซีย บรูไน พม่า ฯลฯ

 

 

 

Read more...

วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการ อาชีวศึกษานิเทศติดตามนักเรียนนักศึกษาค่ายอาชีวศึกษาไทย-อินโดนีเซีย ณ เมืองยอรค์ยากาตาร์ เตรียมพร้อมศักยภาพเยาวชนไทยสู่อาเซียน

ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม สงขลา / ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการ อาชีวศึกษานิเทศติดตามนักเรียนนักศึกษาค่ายอาชีวศึกษาไทย-อินโดนีเซีย ณ เมืองยอรค์ยากาตาร์ เตรียมพร้อมศักยภาพเยาวชนไทยสู่อาเซียน เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 55 ที่ โรงเรียน SMK N 2 Penggasih , Bantul เมืองยอร์คยากาต้า ประเทศอินโดนีเซีย นายเสริมศักดิ์ นิลวิไล ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพสุไหงโก-ลก ในฐานะประธานโครงการค่ายอาชีวศึกษาไทย-อินโดนีเซีย พร้อมคณะผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) เดินทางมานิเทศติดตามนักเรียนนักศึกษาในโครงการ School Partnership Program ไทย-อินโดนีเซีย ภายใต้โครงการพัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้เตรียมพร้อมศักยภาพเยาวชนไทยสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการนิเทศกว่า 100 คน นายเสริมศักดิ์ นิลวิไล กล่าวว่าสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้มีนโยบายเพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับนโยบายด้านการต่างประเทศในปัจจุบัน โดยการฟื้นฟูสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศในทุกด้าน จึงได้มีการสร้างความตระหนักเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจพร้อมทั้งเตรียมบุคลากรตามกรอบของประชาคมอาเซียน และได้จัดโครงการนำคณะครูและนักศึกษาดูงานยังต่างประเทศในครั้งนี้ขึ้นเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการเรียนสาขาอาชีพต่างๆ , ด้านอิสลามศึกษา , ภาษาอังกฤษ , ภาษามาลายู รวมไปถึงเทคโนโลยีทางด้านการศึกษาวิชาชีพระหว่างประเทศไทยกับประเทศ อินโดนีเซีย เป็นการยกระดับอาชีวศึกษาสู่มาตรฐานการศึกษาอาเซียนในปี 2558 ได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับการจัดโครงการในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 20 เมษายน – 12 พฤษภาคม 2555 โดยมีครู-นักเรียนไทยจาก 17 วิทยาลัย สังกัดศูนย์พัฒนาการศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี จ.ยะลา จ.สตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 93 คน ณ เมืองบาหลี เมืองสุราบายา และเมืองยอร์คยากาต้าร์ ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งในเดือนมิถุนายนนี้ทางประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพในการรับนักเรียนแลกเปลี่ยนจากประเทศอินโดนีเซีย พร้อมทั้งได้มีการนำเสนอในการแข่งขันทักษะทางวิชาชีพให้กับนักเรียนกลุ่มดังกล่าวเพื่อต่อยอดโครงการฯนี้ให้มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง นางสาวฮาเดียร์ ดอเลาะ หนึ่งในนักศึกษาไทยที่เข้าร่วมโครงการฯกล่าวว่าตนได้รับประสบการณ์และโอกาสที่ดีมากที่ได้เรียนรู้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม วิถีชีวิต ภาษา และเทคโนโลยีต่างๆของประเทศอินโดนีเซียพร้อมทั้งฝากถึงเยาวชนไทยในการเรียนรู้ภาษาโดยเฉพาะภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมพร้อมตนเองในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 และอยากให้มีโครงการฯแลกเปลี่ยนแบบนี้ต่อไป เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้กับนักเรียนในจังหวัดชายแดนใต้

Read more...

วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษานิเทศติดตามนักเรียนนักศึกษาค่ายอาชีวศึกษาไทย-อินโดนีเซีย ณ เมืองบาหลี เตรียมพร้อมศักยภาพเยาวชนไทยสู่อาเซียน

ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม / ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษานิเทศติดตามนักเรียนนักศึกษาค่ายอาชีวศึกษาไทย-อินโดนีเซีย ณ เมืองบาหลี เตรียมพร้อมศักยภาพเยาวชนไทยสู่อาเซียน

ช่วงค่ำวันนี้(4พ.ค.55) ที่ โรงเรียน SMK N 1 Denpasar  เมืองบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย นายประเสริฐ แก้วเพชร ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) พร้อมด้วย นายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ อดีตเลขาธิการ สอศ.และคณะผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษานิเทศติดตามนักเรียนนักศึกษาในโครงการ School Partnership Program ไทย-อินโดนีเซีย ภายใต้โครงการพัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้เตรียมพร้อมศักยภาพเยาวชนไทยสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการนิเทศกว่า 50 คน

นายประเสริฐ แก้วเพชร ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้มีนโยบายเพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับนโยบายด้านการต่างประเทศในปัจจุบัน โดยการฟื้นฟูสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศในทุกด้าน จึงได้มีการสร้างความตระหนักเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจ พร้อมทั้งเตรียมบุคลากรตามกรอบของประชาคมอาเซียน และได้จัดโครงการนำคณะครูและนักศึกษาดูงานยังต่างประเทศในครั้งนี้ขึ้น เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการเรียนสาขาอาชีพต่างๆ , ด้านอิสลามศึกษา , ภาษาอังกฤษ , ภาษามาลายู  รวมไปถึงเทคโนโลยีทางด้านการศึกษาวิชาชีพระหว่างประเทศไทยกับประเทศอินโดนีเซีย เป็นการยกระดับอาชีวศึกษาสู่มาตรฐานการศึกษาอาเซียนในปี 2558 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการจัดโครงการในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 20 เมษายน – 12 พฤษภาคม 2555 ณ เมืองบาหลี เมืองสุราบายา และเมืองยอร์คยากาต้าร์ ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งถือได้ว่ามีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นทั้งในการขยายจำนวนนักเรียนและโรงเรียนในการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน โดยในเดือนมิถุนายนนี้ทางประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพในการรับนักเรียนแลกเปลี่ยนจากประเทศอินโดนีเซียด้วย

นายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ อดีตเลขาธิการ สอศ. ได้กล่าวขอบคุณผู้บริหารสถานศึกษาของประเทศอินโดนีเซียที่ได้ดูแลนักศึกษาไทยเป็นอย่างดี พร้อมทั้งกล่าวชื่นชมในการจัดโครงการดังกล่าว เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม วิถีชีวิต ภาษา และเทคโนโลยีต่างๆในการเตรียมเป็นสมาชิกครอบครัวเดียวกันของอาเซียนในปี 2558 และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการดังกล่าวจะยังคงสานต่ออย่างยั่งยืนต่อไป

 

Read more...

วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

บรรยากาศการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติจังหวัดสงขลา‏คึกคัก มีผู้ร่วมงานกว่า 2,000 คน เน้นการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของผู้ใช้แรงงาน

ข่าว สงขลา / บรรยากาศการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติจังหวัดสงขลาคึกคัก มีผู้ร่วมงานกว่า 2,000 คน เน้นการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของผู้ใช้แรงงาน 

วันนี้ ซึ่งตรงกับวันที่  1  พฤษภาคม  เป็นวันแรงงานแห่งชาติ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสงขลา ร่วมกับสถานประกอบการในจังหวัดสงขลา จัดริ้วขบวนพาเหรดผู้ใช้แรงงานในจังหวัดสงขลา บรรยากาศเป็นไปด้วยคามคึกคักสนุกสนานเพราะมีแรงงานเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 2,000 คน โดยมีการโบกสะบัดธงชาติประเทศต่างๆในกลุ่มสมาชิกอาเซียน ซึ่งในปีนี้ได้มีการเน้นการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของผู้ใช้แรงงาน  การลดภาวะโลกร้อน การต่อต้านยาเสพติดและอบายมุขในทุกรูปแบบ ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจตลอดเส้นทางการเดินรณรงค์เป็นจำนวนมาก สำหรับงานวันแรงงานแห่งชาติจังหวัดสงขลา ปีนี้จัดขึ้นที่ สนามกีฬาติณสูลานนท์สงขลา อ.เมือง จ.สงขลา โดยมี นายสุรพล พนัสอำพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานการเปิดงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมฉลองและรำลึกถึงบทบาทหน้าที่และความสำคัญของผู้ใช้แรงงานที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศชาติ โดยกำหนดให้วันที่ 1  พฤษภาคม ของทุกปีเป็นวันหยุดตามประเพณีเพื่อเปิดโอกาสให้ลูกจ้าง ผู้ใช้แรงงาน ได้ทำกิจกรรมร่วมกับนายจ้าง หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง เป็นการสร้างเสริมความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน สำหรับกิจกรรมในวันแรงงานของจังหวัดสงขลามีการแข่งขันกีฬาแรงงาน 4 ประเภท ประกอบด้วยฟุตบอล 7 คน วอลเล่ย์บอล เซปัคตะกร้อ กีฬาประเภทลู่  นอกจากนี้ยังมีการเดินพาเหรดของผู้ใช้แรงงาน การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน การตรวจสุขภาพ  และการแสดงดนตรีอีกด้วย

 

 

Read more...