วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2556

คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา จัดประชุมวิชาการนานาชาติภาพ อิสลามศึกษา ครั้งที่ 1 หวังนำงานวิจัยพัฒนาพื้นที่ 3 จชต. พร้อมสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายวิชาการของประชาคมประเทศอาเซียน

ข่าว สุวดี ศรีสมบูรณ์ ภาพ เกียรติศักดิ์ พันธุ์กา  / คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา จัดประชุมวิชาการนานาชาติภาพ อิสลามศึกษา ครั้งที่ 1 หวังนำงานวิจัยพัฒนาพื้นที่ 3 จชต. พร้อมสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายวิชาการของประชาคมประเทศอาเซียน

 

            วันนี้(24..56) เวลา 09.30 . ที่ โรงแรม บี.พี.สมิหลา บีชฯ อ.เมือง จ.สงขลา ดร.เอนก ยมจินดา  รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติอิสลามศึกษา ครั้งที่ 1(The 1st International Conference In Islamic Education) ซึ่งจัดโดยคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา สำหรับในวันนี้ได้รับเกียรติจากนายมูฮัมหมัด ไฟซาล ราซาลี กงสุลใหญ่ประเทศมาเลเซียประจำจังหวัดสงขลา เข้าร่วมสังเกตการณ์ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนกว่า 100 คน จากกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศอื่นๆ อาทิ ประเทศมาเลเซีย , ฟิลิปปินส์ , อินโดนีเซีย , บรูไนดารุสลาม , ไนจีเรีย , อินเดีย , โซมาเลีย , บอสเนียฯ

            ผศ.ไกรสร  ศรีไตรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา กล่าวว่า การจัดประชุมในครั้งนี้เพื่อฉลองครบรอบ 80 ปี การก่อตั้งคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เป็นส่วนหนึ่งของคณะฯ ตามปรัชญา คือ เป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพชีวิตที่สูงขึ้น ด้วยกระบวนการพัฒนาองค์ความรู้บนพื้นฐานการบูรณาการศาสตร์สากลและภูมิปัญญาท้องถิ่น ทางคณะครุศาตร์จึงได้จัดการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาใน 2 หลักสูตร ประกอบด้วย หลักสูตรการสอนอิสลามศึกษาในระดับมหาบัณฑิต และหลักสูตรบริหารการศึกษาในระดับมหาบัณฑิต เพื่อให้ตื่นตัวในการศึกษาค้นคว้าวิจัยในหลักสูตรดังกล่าวให้เกิดสันติภาพอย่างกว้างขวาง จึงนำมาสู่การจัดประชุมในครั้งนี้ เพื่อให้คณาจารย์นักศึกษาและบุคคลากรทางการศึกษาได้นำเสนอผลงาน ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยและวิทยานิพนธ์ เผยแพร่สู่สาธารณชน เป็นการประยุกต์ใช้ผลงานวิจัยของนักศึกษาให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ รวมไปถึงการสร้างเครือข่ายทางการวิจัยและวิทยานิพนธ์ระหว่างคณาจารย์ นักศึกษา และบุคคลากรทางการศึกษาในประเทศต่างๆ

ด้าน ดร.เอนก ยมจินดา  รองเลขาธิการศอ.บต. กล่าวว่า ปัจจุบันทุกคนกำลังเข้าสู่ช่วงระยะเวลาในการเปิดประเทศเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การจัดกิจกรรมในครั้งนี้จึงให้ความสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายวิชาการของประชาคมประเทศอาเซียน ซึ่งการศึกษาเป็นเรื่องที่มีความสำคัญในการพัฒนาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน การศึกษาวิจัยเพื่อค้นหาความรู้มาใช้ในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ โดยใช้ฐานการวิจัย ดังนั้นการจัดการประชุมวิชาการระดับนานาชาติในครั้งนี้ จึงเป็นกิจกรรมที่สำคัญในการร่วมมือกัน และสร้างเครือข่ายร่วมกันระหว่างนักวิชาการ คณาจารย์ และนักศึกษาของกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคอื่นๆ นำไปสู่การพัฒนาร่วมกันต่อไป

 


Read more...

วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2556

รมว.กิจการศาสนาแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียเยือนภาคใต้ของไทย หวังให้ชาวอินโดฯในไทยและนศ.ไทยที่จบจากอินโดฯเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำรงตนแบบสังคมมุสลิม สร้างความรักความสามัคคีและความสงบสุขในพื้นที่ต่อไป


 
ข่าว สุธิดา พฤกษ์อุดม ภาพ โปรดปราน บุญธรรม / รมว.กิจการศาสนาแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียเยือนภาคใต้ของไทย หวังให้ชาวอินโดฯในไทยและนศ.ไทยที่จบจากอินโดฯเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำรงตนแบบสังคมมุสลิม สร้างความรักความสามัคคีและความสงบสุขในพื้นที่ต่อไป
ช่วงดึกวานนี้(13ม.ค.56)ที่ โรงแรม ลี การ์เดนส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ฯพณฯซุรยาดาร์มา อาลี รัฐมนตรีกระทรวงกิจการศาสนาแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ให้สัมภาษณ์หลังงานเลี้ยงพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องชาวอินโดนีเซียที่เดินทางมาศึกษาและทำงานในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย โดยมี นายมูฮัมหมัด ฮัตตา อดีตเอกอัครราชฑูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย พร้อมด้วย นายเฮรู วิจัก โซโน กงสุลใหญ่สาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำจังหวัดสงขลา ร่วมให้การต้อนรับ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงาน จำนวนกว่า 200 คน บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง
ฯพณฯซุรยาดาร์มา อาลี รัฐมนตรีกระทรวงกิจการศาสนาแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย กล่าวถึงการมาเยือนภาคใต้ในครั้งนี้ เพื่อที่จะเข้าร่วมการสัมมนาวิชาการอิสลามศึกษานานาชาติฯ ระหว่างวันที่ 14-16 มกราคม 2556 ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จึงถือโอกาสมาร่วมพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องชาวอินโดนีเซียที่เดินทางมาศึกษาและทำงานในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง เป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีที่ดีในการรับทราบข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน ซึ่งชาวอินโดนีเซียที่พำนักอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ของไทย ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีความสุขที่ได้อยู่เมืองไทยตามแต่ละบทบาทหน้าที่ของตน บางคนมาเรียน บางคนมาทำงาน บางคนก็มีครอบครัวที่เมืองไทย ทั้งนี้ ก่อนที่จะเดินทางมายังจังหวัดสงขลาได้เข้าพบ พลโทอุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และได้หารือร่วมกันในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านการศึกษาที่มีนักศึกษาไทยไปเล่าเรียนที่อินโดนีเซียเป็นจำนวนมาก จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่านักศึกษาเหล่านั้นที่จบจากอินโดนีเซียจะสามารถเป็นแบบอย่างในการสร้างความรักความสามัคคีสร้างความสงบสุขในพื้นที่ภาคใต้ของไทยได้ต่อไป
ทั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงกิจการศาสนาแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย กล่าวฝากถึงพี่น้องชาวอินโดนีเซียที่อยู่ในประเทศไทยว่า ขอให้ทุกคนมีความรักสมัครสมานสามัคคีกัน พร้อมทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำรงชีวิตแบบสังคมมุสลิมและอารยธรรมอิสลามให้แก่ประชาชาติอาเซียน เพราะถือว่าประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศที่ใหญ่และมีผู้นับถือศาสนาอิสลามเป็นจำนวนมาก

Read more...

วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556

รัฐมนตรีกระทรวงกิจการศาสนาแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เดินทางมาพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องชาวอินโดนีเซียที่เดินทางมาศึกษาและทำงานในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย พร้อมร่วมสัมมนาวิชาการอิสลามศึกษานานาชาติ

ข่าว-ภาพ สุธิดา พฤกษ์อุดม / รัฐมนตรีกระทรวงกิจการศาสนาแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เดินทางมาพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องชาวอินโดนีเซียที่เดินทางมาศึกษาและทำงานในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย  พร้อมร่วมสัมมนาวิชาการอิสลามศึกษานานาชาติ

วันนี้(13ม.ค.56)  เวลา 20.00 น. ที่ โรงแรม ลี การ์เดนส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ฯพณฯซุรยาดาร์มา อาลี รัฐมนตรีกระทรวงกิจการศาสนาแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เดินทางมาเยือนภาคใต้ของไทยระหว่างวันที่ 13-15 มกราคม 2556 เพื่อเข้าร่วมการสัมมนาวิชาการอิสลามศึกษานานาชาติ เรื่องอิสลามศึกษาในโลกที่เปลี่ยนแปลง : โอกาสและสิ่งท้าทายระหว่างวันที่ 14-16 มกราคม 2556 ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ซึ่งในวันนี้ได้ร่วมพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องชาวอินโดนีเซียที่เดินทางมาศึกษาและทำงานในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย โดยมี นายมูฮัมหมัด ฮัตตา อดีตเอกอัครราชฑูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย พร้อมด้วย นายเฮรู วิจัก โซโน กงสุลใหญ่สาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำจังหวัดสงขลา ร่วมให้การต้อนรับ และมีผู้เข้าร่วมงาน จำนวนกว่า 200 คน บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง

ฯพณฯ ซุรยาดาร์มา อาลี รัฐมนตรีกระทรวงกิจการศาสนาแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า การเดินทางมายังภาคใต้ของประเทศไทยในครั้งนี้ เพื่อร่วมพบปะชาวอินโดนีเซียและศิษย์เก่าอินโดนีเซียที่พำนักในพื้นที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง พร้อมร่วมการสัมมนานานาชาติฯ ที่จังหวัดปัตตานี เนื่องจากเห็นว่าการสัมมนาดังกล่าว เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซียและประเทศไทยให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

สำหรับการสัมมนาวิชาการอิสลามศึกษานานาชาติที่ จ.ปัตตานี  รัฐมนตรีกระทรวงกิจการศาสนาแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย จะร่วมปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับศาสนา การศึกษา และการพัฒนาอีกด้วย

Read more...

วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556

อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ยืนยันก้าวใหม่กรมประชาสัมพันธ์ พร้อมเดินหน้าเป็นองค์กรหลักด้านการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็นของขวัญต้อนรับปี 2556 แก่พี่น้องประชาชน รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

ข่าว สุวดี ศรีสมบูรณ์ / อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ยืนยันก้าวใหม่กรมประชาสัมพันธ์ พร้อมเดินหน้าเป็นองค์กรหลักด้านการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็นของขวัญต้อนรับปี 2556 แก่พี่น้องประชาชน รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

วันนี้(2..56) นายธีระพงษ์ โสดาศรี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ผ่านรายการหนึ่งถ้วยกาแฟ ซึ่งดำเนินรายการโดย นายณรงค์ ชื่นนิรันดร์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดสงขลา ทางคลื่นความถี่ F.M. 102.25 MHz. ยืนยันก้าวใหม่ กรมประชาสัมพันธ์ พร้อมเดินหน้าเป็นองค์กรหลักด้านการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็นของขวัญต้อนรับปี2556 แก่พี่นองประชาชน

นายธีระพงษ์ โสดาศรี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า ในปีใหม่ 2556 นี้ กรมประชาสัมพันธ์ยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ของกรมประชาสัมพันธ์ในการเป็นองค์กรหลัก ด้านการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ ระดับมืออาชีพแห่งอาเซียน โดยสามารถนำข้อมูลข่าวสารเพื่อสร้างอัตลักษณ์ความเป็นชาติไทยของเราให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและแพร่หลาย โดยยังคงยึดพันธกิจ และยุทธศาสตร์ ที่จะช่วยกันทำงานให้บรรลุผลสำเร็จ แม้จะมีปัญหาอุปสรรคบ้างก็ตาม นอกจากนี้กรมประชาสัมพันธ์ได้มีการปรับสื่อวิทยุ โทรทัศน์ ให้สามารถตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตอบสนองภารกิจของรัฐบาล และการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ให้มีการนำเสนอข่าวสารทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษในทุกสื่อ ทั้งทางวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ โซเชียลมีเดีย โทรทัศน์ดาวเทียม และสื่อบุคคล ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้กรมประชาสัมพันธ์ทำงานได้อย่างครอบคลุม กว้างขวาง และแพร่หลาย

อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในก้าวใหม่ของกรมประชาสัมพันธ์ในปี 2556 นี้ พี่น้องประชาชนจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในการก้าวเข้าไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยกรมประชาสัมพันธ์สนับสนุนให้บุคคลกรได้ฝึกทักษะ ฝึกฝนความรู้ความสามารถด้านต่างๆ รับการฝึกอบรมมากขึ้น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ สวัสดิการให้แก่เจ้าหน้าที่ ควบคู่กับการพัฒนาปรับปรุงเครื่องส่ง กำลังส่งออกอากาศ เช่น เรื่อง new broadband ที่สามารถส่งข้อมูลข่าวสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทันที ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมประมาณต้นปี 2557 รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนระบบการส่งสัญญาณจากระบบอนาล็อกสู่ระบบดิจิตอลให้เป็นไปตามกลุ่มประเทศอาเซียนที่ได้ทำข้อตกลงไว้ว่าภายในปี 2558 นี้ จะต้องเปลี่ยนการส่งสัญญาณให้เป็นดิจิตอลได้ทั้งหมด ในส่วนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้โดยเฉพาะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถรับข้อมูลข่าวสารได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทั้งสื่อวิทยุและโทรทัศน์ที่จะมีการออกอากาศเป็นภาษามลายูถิ่นให้ได้ติดตามกันอีกด้วย

Read more...